วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

" ความเลวร้ายของระบบ sotus "

สรุปแล้วมันเป็นภาพของการทำลายศักดิ์ศรีซึ่งกัน และกันระหว่างนิสิตรุ่นพี่ และรุ่นน้อง ทั้งผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำกลายเป็นสัตว์ป่า เพราะผู้กระทำหลงเชื่อว่า ตนเองมีสิทธิที่จะกระทำแบบนั้นกับผู้อื่น
การตะโกน แบบหยาบๆ เพื่อบังคับให้คนภายใต้อำนาจเราทำสิ่งที่ไร้สาระ เรียนรู้โดยตรงจากการฝึกกองทหารในระบบทุนนิยม ถ้าดูภาพยนตร์เรื่องชีวิตการฝึกทหารก็จะเห็นวิธีการแบบนี้ เป้าหมายหลักคือ การฝึกให้พลทหารทำตามคำสั่งโดยไม่คิด และไม่เถียง เพราะพวกนายพลมองว่าเป็นการสร้าง 'ประสิทธิภาพในการรบ' ขอเน้นอีกครั้งหนึ่งว่าวิธีการนี้ใช้เพื่อสร้างประเพณีบรรยากาศการทำตามคำ สั่งโดยไม่คิดเอง
ดังนั้นนี่คือสิ่งที่นักศึกษาใน 'มหาวิทยาลัยชั้นนำ' ของไทยกำลังถ่ายทอดจากรุ่นพี่ไปสู่รุ่นน้อง ดังนั้นอย่าหวังอะไรมากจากเด็ก SOTUS ที่จบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะถ้าตอนสอบเข้าเขาคิดเองเป็น พอผ่านการฝึกฝนในห้องเชียร์ในปีแรกก็คงไม่มีมันสมองเหลือเพื่อการวิเคราะห์ โลกอีก
กลับมาสู่มหาวิทยาลัยของผมที่หวัง 'เป็นเลิศทางวิชาการ' .... ถ้าเราถามนิสิตรุ่นพี่หรือนิสิตเก่าว่า กิจกรรมในห้องเชียร์ทำไปทำไม เขาจะตอบว่ามันเป็นกิจกรรมร่วมภายใต้ระบบ SOTUS ที่สร้างความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในคณะ เขาจะอธิบายต่อว่าการผ่านความยากลำบาก (การถูกบังคับอย่างทารุณโดยรุ่นพี่) ช่วยให้ทุกคนรู้จักกันดีขึ้น และสามัคคีกัน

ดังนั้นผมขอเสนอว่า จริงๆ แล้วถ้านิสิตจะฝ่าความยากลำบากพร้อมๆ กันก็ควรอาสาสมัครหมู่ไปขุดโคลนออกจากท่อระบายน้ำตามถนนอย่างที่นักโทษเขาทำ กัน หรืออาสาสมัครไปเก็บขยะตามสลัมแถวๆ คลองเตยหรือทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ ฯลฯ จะมีประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า

แต่ ผมเชื่อว่านิสิตพวกที่หลงใหลในระบบ SOTUS คงไม่มีวันทำ เพราะลึกๆ แล้วระบบนี้เป็นระบบที่ปกป้องโครงสร้างอำนาจระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง "สิงห์ดำ แดง เหลือง ม่วง ลาย ฯลฯ" หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้วออกไปทำงาน พูดง่ายๆ SOTUS มันไม่แค่ทำลายความคิดของนิสิตขณะที่ศึกษา แต่มันปกป้องระบบอำนาจนิยมในหมู่ชนชั้นนำในสังคมไทยด้วย

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่า SOTUS คืออะไร ขออธิบายว่าเป็นตัวย่อจากภาษาอังกฤษ 5 คำดังนี้

S มาจากคำว่า Stupid หรือ 'โง่' ระบบห้องเชียร์ช่วยให้นิสิตโง่มากขึ้น เพราะทำลายเซลล์ในสมอง และความสามารถในการคิดเองเป็น แถมกิจกรรมต่างๆ ที่ทำในห้องเชียร์ถูกกำหนดว่าต้องเป็นเรื่องโง่ๆ ด้วย ห้ามเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต้องวิ่งไปวิ่งมา ขังรุ่นน้องในห้องโดยปิดประตูหน้าต่าง และไม่เปิดแอร์ ทำถูกก็โดนด่า ทำผิดก็โดนด่า ไม่ทำก็ด่า ทำก็ด่า ทำไปทำมาทั้งรุ่นน้อง และรุ่นพี่โง่กันอย่างสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำกิจกรรมเสร็จแล้วออกมาจากห้องก็ต้องไหว้รุ่นพี่อีก ถ้ารุ่นพี่สั่งให้ไหว้หมา 'เพื่อความสามัคคี' ก็คงต้องไหว้มั้ง? แถมเรียนจบก็นำความโง่ไปใช้ในสังคมภายนอก หมอบคลานกราบไหว้สิ่งที่ไม่ควรกราบ ไม่ต้องใช้สมองคิด สังคมจะได้โง่
ระบบ ห้องเชียร์ และ SOTUS มันน่าจะเป็นฝันร้ายจากอดีตที่ไม่เป็นจริง แต่ทุกวันนี้ ในหมู่คนหนุ่มสาวที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มชั้นนำ (Cream of Thai Society) มันเป็นความจริง และแย่ยิ่งกว่าฝันร้ายอีก
สรุปแล้วโคตรโง่เลย !

O มาจากคำว่า Out-Dated ซึ่งแปลว่า 'ล้าสมัย' ความล้าสมัยของระบบห้องเชียร์ และ SOTUS ดูได้จากการที่มีการยกเลิกระบบนี้เองโดยนักศึกษาไทยในยุค 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งเป็นยุคตื่นตัวทางสังคมของนักศึกษา ในยุคนั้นเริ่มมีขบวนการนักศึกษาที่ปฏิเสธความโง่ และความป่าเถื่อนของระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ประเพณีต่างๆ ที่พวกพี่ๆ โง่ นำมาใช้ในสมัยเผด็จการทหารก็เลยกลายเป็นเรื่องตลก และถูกยกเลิกไป
แต่ ปรากฏว่าตอนนี้เกือบ 30 ปีผ่านไป สังคมนักศึกษาก็ยังจมอยู่ในความโง่ของอดีต สาเหตุก็ไม่ใช่เพราะนักศึกษาโง่หรอก แต่เพราะชนชั้นปกครองไทยอยากให้โง่ต่างหาก ดังนั้นเมื่อนักศึกษาเริ่มคิดเองเป็น และเริ่มเคลื่อนไหวทางสังคมหลังสมัย 14 ตุลา ชนชั้นปกครองกลัวว่าจะปกป้องอภิสิทธิ์ไม่ได้ จึงมีคำสั่งร่วมลงมาให้สังหารหมู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และมีคำสั่งตามมาให้เผาหนังสือที่อาจปลดแอกพวกเราจากความโง่ตามห้องสมุด ต่างๆ ด้วย
ในยุคโลกาภิวัตน์ ใครๆ เขาพูดกันว่าพลเมืองต้องมีส่วนร่วมในการปกครอง ต้องร่วมตรวจสอบผู้แทน ต้องมีประชาธิปไตย ต้องคิดเองเป็น และมีการเสนอมานานว่าควรปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนานักศึกษา แต่ในหมู่นิสิตรุ่นต่างๆ ที่บ้าคลั่ง SOTUS การเปลี่ยนแปลงในโลกภายนอกคงไม่มีความหมาย น่าสงสารไม่มีสมองก็คิดเองไม่เป็น แล้วคงไม่รู้จักเปลี่ยนวิธีปฏิบัติ

T ย่อจาก Tyranny ซึ่งแปลว่า 'การใช้เผด็จการกดขี่ผู้อื่น' ระบบ SOTUS ใช้วิธีการไร้สาระของการกดขี่เพื่อความไร้สาระ และเป็นระบบที่นำมาหนุนความคิดแบบอำนาจนิยมกราบไหว้ในสังคมภายนอก แต่เราไม่ควรลืมประวัติศาสตร์ของเราเอง ในปี 2475, 2516 และ 2535 มวลชนชาวไทยรวมตัวกันล้มระบบเผด็จการ และชนะ
ดังนั้นถ้านิสิตนักศึกษา รุ่นใหม่ต้องการล้มเผด็จการของห้องเชียร์ และรุ่นพี่ ก็คงต้องเรียนบทเรียนจากอดีต คนหนุ่มสาวไทยสามารถล้มเผด็จการได้ และเคยยกเลิกระบบรุ่นพี่รุ่นน้องในจุฬาฯ ด้วย แต่ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องรวมตัวกันปฏิเสธความโง่ แล้วพวกรุ่นพี่ที่ดูเหมือนจะมีอำนาจล้นฟ้าก็จะกลายเป็นมนุษย์น้อยที่น่า สงสารเท่านั้นเอง ดีไม่ดีเขาอาจไหว้เราเป็นการขอบคุณก็ได้เพราะเราสามารถปลดแอกความโง่จากเขา ได้
สิ่งที่สำคัญคือ นิสิตต้องทำเอง ไม่ใช่ไปหวังว่าคนอื่นอย่างผมหรือใครที่ไหนจะทำให้ อย่าลืมว่าคนสามารถเอาแอกออกจากควายได้ แต่เนื่องจากควายเอาแอกออกเองไม่ได้ ควายจำต้องเป็นทาสของมนุษย์ตลอดกาล

U มาจาก Uncivilized ซึ่งแปลว่า 'ป่าเถื่อน' ไม่มีอารยธรรม การใช้อำนาจระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง การทำกิจกรรมไร้สาระ การตะโกนในทำนองว่า "คณะกูดีกว่าคณะมึง" การทำลายความเป็นปัจเจกมนุษย์ และการทำลายมันสมองที่จะคิดเอง ล้วนแต่เป็นความป่าเถื่อนไร้อารยธรรม แม้แต่สัตว์ในป่ายังมีอารยธรรมมากกว่าพวกบ้า SOTUS เพราะสัตว์มันคิดเองไม่เป็นตามธรรมชาติเรายกโทษให้มันได้ แถมมันไม่มีวันจงใจโง่หรือแกล้งคนอื่นเหมือนพวกนิสิต SOTUS
รู้ไหมว่า ระบบ SOTUS นี้คนไทยเอามาจากไหน? ลองคิดดูว่าที่ไหนไร้อารยธรรมที่สุดในโลก คนกลุ่มไหนกำลังทำตัวเป็นอันธพาลระดับโลกาภิวัตน์จนเกิดการเกลียดชังกันทั่ว ทุกแห่ง คนกลุ่มไหนพร้อมจะกอบโกยขณะที่คนยากจนอดอยาก คนกลุ่มไหนฆ่าเด็กในนามของเสรีภาพ ....
ใช่ครับ ระบบ SOTUS มาจากส่วนบนของสังคมสหรัฐอเมริกาที่ล้าหลัง และไร้อารยธรรมที่สุด พวก 'รักชาติไทย' ทั้งหลายว่าอย่างไรครับ? จะเดินตามก้นสหรัฐเหมือนคนกวาดมูลต่อไปไหม?

S ตัวสุดท้ายมาจากคำว่า Stop It - 'เลิกเถิดเรื่องโง่ๆ ไร้สาระ' เลิกเถิดเรื่องการกดขี่กันเองในหมู่นักศึกษา เลิกตะโกนบ้าๆ เพื่อเชียร์สิ่งที่ไม่น่าเชียร์ เลิกภูมิใจ และเคารพกราบไหว้ในสิ่งน่าเบื่อย่ำแย่ เลิกกลัวที่จะขัดคำสั่งรุ่นพี่ รุ่นพี่เลิกกลัวที่จะไม่ทำตามประเพณีโง่ๆ ต่อไป....


เขียนโดย: อ.ใจ อึ๊งภากรณ์(อ.รัฐศาสตร์-จุฬา) -