วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิพากษ์ว้าก:บทวิพากษ์แห่งการรับน้องประชุมเชียร์โซตัส(SOTUS)(ปฏิรูประบบรับน้อง สร้างSOTUSใหม่ ชาติไทยจงเจริญ)

บทที่ 6

ปฏิรูประบบรับน้อง สร้าง SOTUS ใหม่ ชาติไทยจงเจริญ

หลังจากที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการรับน้องในระบบ SOTUS แล้ว ท่านผู้อ่านก็คงได้รับข้อคิดกันไปพอสมควร ซึ่งเนื้อหานั้นมีทั้งวิพากษ์วิจารณ์เบาบ้าง รุนแรงบ้างเป็นลำดับไป ที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงก็ด้วยความปรารถนาดีไม่ได้โกรธแค้นอะไรเพราะอยากให้พวกเราได้หันมาฉุกคิดกันถึงปัญหาการรับน้องที่มีอยู่มากมายในสังคมนี้แต่ถูกมองข้ามละเลยกันมานาน กลายเป็นค่านิยมในการรับน้องรุนแรงซึ่งเป็นภัยเงียบที่เราทั้งหลายไม่ค่อยได้คิดกัน เห็นดีเห็นงามตามกันไป

ขอเรียนให้ทราบว่าทั้งหมดที่วิพากษ์วิจารณ์กันมานี้ ไม่ใช่ว่าตัวผู้เขียนมีอคติ เกลียดระบบรับน้องประชุมเชียร์ SOTUS จนอยากจะปฏิวัติล้มเลิกมันไปเสียเลย แต่ที่วิพากษ์วิจารณ์นี้เพราะเห็นว่ามันสมควรที่จะต้องปฏิรูปกันเสียที ในเมื่อ SOTUS ทุกวันนี้ไม่สามารถสร้างอุดมการณ์ให้ตรงกับคำว่า SOTUS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่เกิดการยอมรับโดยผู้คนจำนวนมากในสังคมประชาธิปไตยมากขึ้น เมื่อไม่เกิดการยอมรับในการนำไปปฏิบัติย่อมไม่เกิดผลอะไร ผู้ปฏิบัติการว้ากทั้งหลายไม่สามารถทำให้ SOTUS เป็นที่ยอมรับได้จึงไม่เกิดประสิทธิภาพที่ดีพอ เพราะไม่รู้จักการปฏิรูปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการให้เข้ากับยุคสมัยทั้งๆที่มันพ้นยุคไพร่ – ทาสไปนานแล้ว ปัจจุบันไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่าประเทศไหนในโลกนี้ที่ยังคงรับน้องด้วยการว้ากเลยเสียด้วยซ้ำ แม้แต่ต้นกำเนิดของการว้ากก็มาจากส่วนที่ล้าหลังที่สุดของสหรัฐอเมริกาเลย ซึ่งคาดว่าในยุคนี้คงยกเลิกไปหมดแล้วเพราะประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยในระดับดีเป็นต้นๆของโลกเสียด้วย

ผมเข้าใจว่าวัฒนธรรมไทยนั้นมีความดีงามมากมายที่เราเป็นเมืองพุทธ มีศีลธรรมมีประเพณีมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการยิ้มไหว้ทักทายกัน เป็นมิตรไมตรีต่อกัน ในฐานะที่ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นเพื่อน เป็นญาติพี่น้องกัน การรับน้องนั้นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ไม่มีสูตรวิธีการกำหนดตายตัว แต่จุดประสงค์หลักคือการผูกมิตร ทำความรู้จักเข้าใจกันระหว่างพี่น้องผองเพื่อน SOTUS นั้นก็มีความหมายที่ดีอยู่ เป็นเงื่อนไขทางอุดมการณ์ที่เราควรสร้างให้เกิดขึ้นจริง มิใช่อ้างไว้สวยหรูเท่านั้น แต่ทุกสิ่งนี้มันถูกทำลายด้วยน้ำมือของใครเล่า ถ้าไม่ใช่น้ำมือของคนผู้นิยมว้าก ที่ใช้การว้ากและความรุนแรงทำลายสิ่งเหล่านี้เสียสิ้นมาตลอดโดยไม่รู้ตัว

ผมไม่ขอเป็นคนที่ดีแต่พูด ดีแต่วิพากษ์วิจารณ์แย้งโดยไม่เสนอวิธีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ดังนั้นผมจะขอเสนอแนวทางการปฏิรูประบบรับน้องไว้ ณ ที่นี้ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับน้องทุกท่านได้คิดวิเคราะห์ นำไปเผยแพร่และปฏิบัติ(ตัวผมก็จะปฏิบัติด้วยเช่นกันเพื่อเป็นตัวอย่างเมื่อมีโอกาสได้ทำ) ด้วยความรักชาติ ด้วยหัวใจที่ดีงาม ต้องการนำพาประเทศให้เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในประเทศของเราอย่างแท้จริงครับ

“แนวทางปฏิรูประบบรับน้อง สร้าง SOTUS ใหม่”

1.ยกเลิกระบบรับน้องด้วยการว้ากและใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบอย่างเบ็ดเสร็จ เพราะสังคมที่เสื่อมถอย รุนแรง ไม่มีความเป็นปัญญาชนที่แท้จริงได้นำพาให้ประเทศของเราประสบปัญหามากมายเพราะความรุนแรงในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีความรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การกดดันรุ่นน้องทุกรูปแบบนั้นก็เป็นความรุนแรงทางจิตใจอย่างหนึ่ง เช่นการว้ากซึ่งเป็นความรุนแรงทางจิตใจที่อยู่ในระบบรับน้องมานาน รวมไปถึงการสร้างบรรยากาศให้ตึงเครียด การกำหนดโควตาให้รุ่นน้องมาเข้าประชุมเชียร์เท่านั้นเท่านี้ การทรมานต่างๆ กลายเป็นค่านิยมที่ส่งผลกระทบด้านความรุนแรง ส่งเสริมระบบอำนาจนิยมที่เป็นต้นกำเนิดของความเลวร้ายแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นยึดมั่นตัวตนเป็นใหญ่

2.นำศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม เข้าสู่ระบบรับน้องและใช้ในการประชุมเชียร์ การประชุมเชียร์จะต้องมีการปฏิบัติธรรม ด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ การพูดในการประชุมเชียร์ต้องเน้นธรรมะส่งเสริมความดีงาม ให้เกิดความจรรโลงใจ สงบและสันติสุขแก่ทุกคนในที่ประชุมเชียร์ การรับน้องต้องมีการบำเพ็ญประโยชน์สร้างบุญกุศล เช่นการทำความสะอาดมหาวิทยาลัย

3.ปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติให้เกิดขึ้นในระบบรับน้องและใช้ในการประชุมเชียร์ การประชุมเชียร์จะต้องมีรุ่นพี่ที่ได้รับการยอมรับในการเป็นผู้ปฏิบัติดีงาม มีความรักชาติ ทำการปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติให้เกิดขึ้นแก่ทุกคน ด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมความรักชาติ เช่นการพูดส่งเสริมการทำความดีอุทิศตนให้แก่สังคมและประเทศชาติ เล่าประวัติศาสตร์ ตอบปัญหาประวัติศาสตร์ ให้ชมวีดีทัศน์ที่เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความรักชาติ

4.ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในระบบรับน้องและการประชุมเชียร์ กิจกรรมในการรับน้องประชุมเชียร์ต้องก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และกล้าแสดงออก เช่นการรวมกลุ่มเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาสังคม แล้วออกมาบรรยายโดยสมาชิกทั้งกลุ่ม

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ แนวทางที่ควรนำไปปฏิบัติในการปฏิรูประบบรับน้องประชุมเชียร์ ถ้าถามว่าแล้วมันจะก่อให้เกิด SOTUS ที่แท้จริงได้อย่างไร? เกิดครับ เพราะ 4 ข้อที่ได้กล่าวมานั้นเป็นการรับน้องโดยสันติวิธี สร้างความสนุกสนานและการยอมรับให้เกิดขึ้น เมื่อมีการยอมรับเกิดขึ้น การเคารพต่อผู้ที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่า(Seniority) ก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการนำศีลธรรมเข้ามาในการรับน้องประชุมเชียร์ คำสั่งที่ดีก็ย่อมเกิด เมื่อเกิดแล้วก็มีการปฏิบัติ(Order) ธรรมเนียมประเพณี(Tradition) ที่ดีงามของสังคมไทยก็ได้รับการปฏิบัติไปด้วย นั่นคือการผูกมิตร ยิ้มไหว้ทักทายกันอย่างสันติ ไม่ต้องสร้างบรรยากาศตึงเครียดเหมือนโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อนอีกต่อไป ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน(Unity) และความกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง(Spirit) นั้น เกิดจากการปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ เมื่อทุกคนมีความรักชาติ มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนตรงกัน มีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกันให้สำเร็จก็จะเกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยอัตโนมัติ การส่งเสริมให้แสดงความคิดเห็นทุกคนในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกันก็จะเกิดความกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปนั้นจะได้ SOTUS ครบทุกประการ โดยที่ไม่ต้องว้ากหรือใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น คนเราถ้าทำอะไรด้วยใจรัก ยอมรับที่จะทำสิ่งนั้นๆมันย่อมที่จะทำได้ประสิทธิภาพมากกว่าอยู่แล้วมิใช่หรือ? ถ้าคุณกล้าเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า กับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตวัยรุ่นแล้ว คุณเปลี่ยนมันได้สำเร็จแล้ว คุณก็ย่อมมีพลังที่จะไปเปลี่ยนอนาคตของคุณ เปลี่ยนสังคมและประเทศชาติให้ดีกว่านี้ได้ ชาติไทยจงเจริญแน่นอนครับ